แนวการสอนการตลาด แนวใหม่
( Marketing 6 Types in love Cases )
20 สิงหาคม 2548
Font : CordiaUPC
การตลาดเป็นเรื่องยาก ก็เลยยกตัวอย่างชีวิตธรรมดาที่ชายหนุ่มใช้การตลาดในการจีบสาว ดังนี้
1. การตลาดแบบขายตรง ( Direct Marketing )
ชายหนุ่มพบสาวสวยในงานเลี้ยง เดินเข้าไปหาเธอพร้อมกับพูดว่า “ผมหล่อ พ่อรวย บ้านสวย เป็นนักกีฬา การศึกษาดี มีอนาคตไกล แถมโสดและสดที่สุด สนใจผมมั๊ยละครับ”
หลักการ : เข้าไปพบและบอกขายตรงๆ
2. การตลาดแบบโฆษณา ( Advertising )
ชายหนุ่มเอาเงินให้เพื่อนไป 100 บาท เพื่อไปบอกสาวสวยคนนั้นว่า “นี่คุณ เพื่อนผมคนโน้นน่ะ เขารูปหล่อ พ่อรวย บ้านสวย......... สนใจเข้ามั๊ยล่ะ”
หลักการ : จ้างมืออาชีพไปทำการโฆษณาให้
3. การตลาดแบบโทรศัพท์ ( Telemarketing )
ชายหนุ่มได้เบอร์โทรศัทพ์มือถือของหล่อน ก็เลยให้คุยกัน แล้วคุณก็บอกเธอว่า “นี่คุณ ผมเนี่ยรูปหล่อ พ่อรวย บ้านสวย...สนใจผมมั๊ยล่ะ”
หลักการ : ใช้โทรศัพท์ติดต่อชักชวนโดยไม่จำเป็นต้องเห็นหน้าเห็นตากันก็ได้
4. การตลาดแบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ ( Customer Relationship Management)
ถ้าชายหนุ่มเคยพบเธอมาก่อน ก็เข้าไปพบเธอแล้วรื้อฟื้นความทรงจำ โดยพยายามทำให้เธอหัวเราะด้วยลูกเล่นต่างๆ นานาอย่างมีความสุข จนในที่สุดเห็นว่าสร้างความสัมพันธ์ได้ในระดับหนึ่งแล้ว คุณก็บอกกับเธอว่า “นี่คุณ ผมเนี่ย รูปหล่อ พ่อรวย บ้านสวย... สนใจผมมั๊ยล่ะ”
หลักการ : สร้างความสัมพันธ์ก่อนแล้วค่อยชักชวน วิธีการนี้กำลังบูมอยู่ในปัจจุบัน
5. การตลาดแบบขายจริงจัง ( Hard Selling )
ชายหนุ่มยืนตัวตรงและพูดกับเธออย่างสุภาพและนุ่มนวลพร้อมบริการอย่างเต็มที่ ยิ้มพิมพ์ใจ และสร้างบรรยากาศก่อนให้คุณเป็นสุภาพบุรุษชวนฝันอย่างสุดๆ แล้วก็กระซิบบอกเธอว่า“นี่คุณ ผมเนี่ยรูปหล่อ พ่อรวย บ้านสวย....สนใจผมมั๊ยล่ะ”
หลักการ : สร้างบรรยากาศ แล้วขายอย่างเอาจริงเอาจัง หวังผลเต็มที่
6. การตลาดภาพลักษณ์ ( Branding )
ท้ายสุดเธอป็นฝ่ายเดินเข้ามาบอกคุณว่า “นี่คุณ ฉันรู้มาว่าคุณเนี่ยรูปหล่อ พ่อรวย บ้านสวย...ฉันชักสนใจคุณเข้าแล้วสิ”
หลักการ : สร้างภาพลักษณ์ ยี่ห้อ ตราของสินค้าจนลูกค้าเข้ามาเสนอซื้อเอง
กลยุทธ์แบบการตลาดทั้ง 6 แบบนี้ เราได้สัมผัสมาแล้วในชีวิตประจำวัน มีเซลล์แมนเข้ามาหาบอกขายของ มีโฆษณาบนหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ มีคนไม่เคยรู้จักโทรเข้ามาหาที่มือถือ มีเซลล์แมนมาจัดกิจกรรมให้ลูกค้าหรือเพื่อนเราที่เป็นคนขายประกันมาตีสนิทกับเรา และบางอย่างเราก็เดินเข้าไปซื้อเองโดยไม่ได้ลังเลใจ เพราะเชื่อในคุณภาพของเขา
ในยุคหาเสียงเลือกตั้งก็เช่นกัน มีการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดมาใช้ในการเมือง หรือเข้าไปนั่งในหัวใจของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง บางพรรคก็มีภาพลักษณ์ที่ดี ก็เลือกเข้าไปโดยไม่จำเป็นต้องศรัทธาคนสมัครเลือกตั้ง เป็นขาประจำของพรรค บางคนก็ออกหาเสียงโฆษณาให้ คนที่เป็นดารารูปหล่อที่มีชื่อเสียงมาก่อนก็อาศัยภาพลักษณ์ของตัวเอง ก็ย่อมได้เปรียบผู้สมัครหน้าใหม่ บางคนก็โฆษณาเอาจริงเอาจังทั้งติดป้ายไปทั่ว ทำกิจกรรม เดินหาเสียง ครบชุด แล้วคนก็เลือกเขาเข้าไปนั่งในสภา และที่เราเลือกเข้าไปก็เป็นด้วยอิทธิพลทางด้านการตลาด หาใช่ของแท้ที่เป็นการพิจารณานโยบายการตรวจคุณสมบัติ การพิสูจน์ความสามารถ และเป็นคนดีเสียสละอย่างที่หลายๆคนอยากให้เป็น
หนังสืออ้างอิง: ภาพลักษณ์หรือภาพลวงตา
โดย ธีระชัย เชมนะสิริ
วารสาร Productivity Corner ฉบับเดือน มีนาคม 2548
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น