สเตียรอล และ สเตียโรลิน จากพืช สารอาหารมหัศจรรย์ในยุคปัจจุบัน
บทนำ
ไม่กี่ปีมานี้อุปบัติการณ์โรคอุบัติการณ์ภาวะเสื่อมเรื้อรังได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายโรคเกิดจากวิถีทางการดำเนินชีวิตและสะท้อนถึงการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมและอาจรวมถึงปัจจัยอื่นๆอีกหลายปัจจัย เช่น การขาดการออกกำลังกายและระดับความเครียดสูงเป็นเวลานานผิดปกติ โรคเรื้อรังหลายโรคบ่งบอกถึงความล้มเหลวในการทำงานของภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลองดูตัวอย่างโรคเสื่อมเหล่านี้
มะเร็ง
คาดว่าในปี 1999 จะวินิจฉัยพบมะเร็งใหม่ประมาณ 2,221,800 ราย คาดว่าชาวอเมริกันประมาณ 563,100 คนจะตายด้วยมะเร็ง เท่ากับวันละมากกว่า 1,500 คน
ในสหรัฐอเมริกา ผู้เสียชีวิตเนื่องจากมะเร็งเป็น 1 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด
ข้ออักเสบ
ข้ออักเสบเกิดกับชาวอเมริกันมากกว่า 40 ล้านคน หรือเท่ากับเกือบ 1 ใน 7 ทำให้เป็นโรคที่พบมากที่สุดโรคหนึ่งในสหรัฐอเมริกา
ข้ออักเสบเป็นโรคที่ทำให้เกิดโรคการทุพพลภาพเป็นอันดับหนึ่งของสหรัฐอเมริกา 1 ใน 2 ของคนอเมริกันที่อายุเกิน 65 ปีจะเป็นข้ออักเสบ
ภูมิแพ้ / ไข้ละอองฟาง
ภูมิแพ้ทำให้มีการพบแพทย์ปีละมากกว่า 11 ล้านครั้ง 25% ของประชากรต้องทุกข์ทรมานจากภูมิแพ้
ภูมิแพ้เป็นภาระใหญ่ทางเศรษฐกิจ ค่าใช้จ่ายในการรักษาประมาณปีละ 1 หมื่นล้านดอลลาร์
คำแนะนำสำหรับป้องกันโรคน่าจะได้แก่การเอาใจใส่ความสมดุลทางโภชนาการและพยายามดำรงชีวิตอย่างปราศจากความเครียดร่วมกับการออกกำลังกายสม่ำเสมอ นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามสืบหาวิธีการที่จะช่วยรักษาโรคได้จริงๆหลังจากละความสนใจจากแหล่งสมุนไพรไปสู่การพัฒนายาที
เป็นสารเคมีที่ซับซ้อน ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์กลับมาสนใจและวิจัยพืชสมุนไพรอีกครั้งเพื่อหาแหล่งสารพฤกษเคมี (phytochemical) ที่น่าทึ่งที่จะทำให้สุขภาพแข็งแรงได้
สารอาหารมหัศจรรย์มีอยู่มากในพืชผัก
นักวิทยาศาสตร์มุ่งความสนใจไปที่ฤทธิ์ของสเตียรอลและสเตียโรลินจากพืช สารพฤกษเคมีที่มีฤทธิ์เหล่านี้มาจากผลไม้ ผัก และสมุนไพรอื่นๆ และมีบทบาทมากมายในร่างกายมนุษย์แตกต่างกัน ที่สำคัญอย่างยิ่งคือสารเหล่านี้ให้ความต้านทานสูงต่อโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ได้แก่ มะเร็ง ข้ออักเสบรูมาทอยด์ เอชไอวี วัณโรค โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง โรคเอสแอลอี (systemic lupus erythematosus) และการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียเรื้อรังอื่นๆ นอกจากนี้ก็มีโรคอื่นๆอีกที่ตอบสนองค่อนข้างดีต่อสารพฤกษเคมี ได้แก่ เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และสภาวะอักเสบบางชนิด คุณจะพบกับผลิตภัณฑ์ที่มีสารอาหารนี้ได้ Clickที่นี่ ” ไฟโตเพล็กซ์”
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1997 ศาสตราจารย์ คาร์ล พีเจิล (Professor Karl H. Pegel) แห่งมหาวิทยาลัยนาทาล/แอฟริกาใต้ ได้ตีพิมพ์บทความปริทัศน์ใน South African Journal of Science เขาให้ความเห็นไว้ว่า “การศึกษาทางระบาดวิทยาแสดงให้เห็นอย่างสม่ำเสมอว่าอาหารที่อุดมด้วยสเตียรอลและสเตียโรลินจากพืชลดโอกาสเสียงในการเกิดมะเร็งชนิดต่างๆ โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน และความผิดปกติอื่นๆที่พบบ่อยที่เป็นผลมาจากความเจริญได้” และ “เมื่อให้อาสาสมัครที่รับประทานอาหารตามปกติรับประทานสเตียรอลและสเตียโรลินเสริมทุกวันเป็นเวลา 4 สัปดาห์ พบว่าเม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์มีการตอบสนองด้านการแบ่งตัวเพิ่มขึ้น แนะให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสเตียรอลและสเตียโรลินจากพืชเป็นประโยชน์ต่อระบบภูมิคุ้มกันได้ที่ความเข้มข้นต่ำมาก” และสุดท้าย “มีรายงานเกี่ยวกับฤทธิ์ของทั้งสเตียรอลและสเตียโรลินในการต้านการอักเสบ ต้านแผล ต้านเบาหวาน และต้านมะเร็ง”
สเตียรอลและสเตียโรลินจากพืชคืออะไร ?
ความก้าวหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งอันหนึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือการค้นพบฤทธิ์ของสเตียรอลและสเตียโรลินจากพืชที่มีผลต่อร่างกาย สารทั้งสองเป็นสารพฤกษเคมีที่พบในสมุนไพรหลายชนิด สเตียรอลมีหลายชนิด ไฟโตสเตียรอลตัวที่สำคัญที่สุดชื่อว่า ซิโตสเตียรอล นอกจากซิโตสเตียรอลยังมีสเตียรอลที่พบบ่อยตัวอื่นๆอีก ได้แก่ แคมเพสเตียรอล ซิโตสตานอลและสติกมาสเตอรรอล ส่วนซิโตสเตียรอลในรูปกลูโคไซด์นั้นเรียกว่า ซิโตสเตียโรลิน ซึ่งจะพบอยู่กับสเตียรอลในพืชเสมอ อัตราส่วนของเสตียรอลต่อสเตียโรลินในอาณาจักรพืชมีค่าตั้งแต่ 5% ถึง 10% แต่ในบางกรณีก็มีค่าสูงกว่านั้น เช่น ในมันฝรั่ง เป็นต้น สเตียรอลเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นของเยื่อหุ้มเซลล์ และการรักษาระดับสเตียรอลในซีรัมให้พอเหมาะในมนุษย์ก็ดูเหมือนเป็นสิ่งที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
เมล็ดเป็นแหล่งที่มีสเตียรอลและสเตียโรลินมากที่สุด แต่กระบวนการแปรรูปในอุตสาหกรรมอาหารกลับทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารไร้ประโยชน์เนื่องจากกำจัดสเตียรอลและสเตียโรลินออกไปเพื่อให้ลักษณะภายนอกของอาหารดูดี ตัวอย่างเช่น เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันตกตะกอนในผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า “cold pressed oil” เขาจะให้ความร้อนแก่น้ำมันและทำให้บริสุทธิ์ เพื่อกำจัดสเตียรอล/สเตียโรลินออกไป สเตียรอลและสเตียโรลินเป็นสารที่ปรับการทำงานของทีเซลล์ทั้งในหลอดทดลองและในร่างกายได้โดยการกระตุ้นการแบ่งตัวของทีเซลล์ …..
ต่อตอนที่2
http://jumbolifeschool.blogspot.com/2011/08/2.html
รายลเอียดเพิ่มเติม
ไฟย์โตเพล็กซ์
http://jumbolifeshop.weloveshopping.com/shop/showproduct.php?pid=19449286&shopid=262005
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น