วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ธุรกิจแห่งศตวรรษที่21 โดย J. Paul Getty



ธุรกิจแห่งศตวรรษที่21

ปัญหาชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่

รายได้ไม่เพียงพอค่าใช้จ่าย เป็นหนี้เป็นสิน
ไม่มีเงินเก็บออม ไม่มีทรัพย์สิน
ไม่ชอบงานที่ทำ เบื่องาน
รู้สึกไม่มั่นคง ขาดหลักประกันชีวิต
ไม่มีเวลาให้ตัวเองและครอบครัว
ไม่มั่นใจในอนาคตของตนเอง
ยังไม่รู้สึกถึงความสำเร็จในชีวิตอย่างที่เคยฝัน

สถิติเป็นเรื่องจริง
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สถิติของคนถูกออกจากงานทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากอย่างเป็นประวัติการณ์ ทั้งในระบบธุรกิจ ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้เนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจ และระบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป คนที่ยังคงอยู่ต้องทำงานหนักมากขึ้น แข่งขันมากขึ้น ในขณะที่มีทางเลือกกลับมีไม่มากนัก อีกจำนวนมากที่ถูกออกจากงานต้องมองหาโอกาสทดแทน
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนในกรุงเทพมหานครในปี 2546 พบว่าร้อยละ 76.2 ของประชาชน มีรายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย และร้อยละ 48.3 มีหนี้สิน เฉลี่ยคนละ 200,000 บาท ในขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ประกาศฐานะของคนไทยปี 2545 มีรายได้เฉลี่ยประมาณเดือนละ 13,418 บาท ต่อครัวเรือน ในขณะที่หนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนสูงถึง 83,314 บาท !!!! ปัจจุบัน พ.ศ.2552 หนี้สินต่อคนเฉลี่ยทะลุหลักแสน ไปแล้ว

รายงานจากสถาบันสถิติแรงงาน
ระบุว่า คนในวัยเกษียณเมื่ออายุ 65 ปี หลังจากผ่านช่วงเวลาการทำงาน 40 ปี
1% มีฐานะร่ำรวย
4% มีเงินเก็บมากพอเลี้ยงชีวิต
3% ยังคงต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง
63% ยากจน ต้องพึ่งพารัฐ ครอบครัว ญาติ มูลนิธิ
29% เสียชีวิต
มีคน เพียง 5% เท่านั้นที่มีเงินเก็บมากพอเลี้ยงชีวิตบั้นปลาย

....เราจะดำเนินชีวิต ให้แตกต่างจาก
ผู้คนส่วนใหญ่ เหล่านั้น ....ได้อย่างไร ?

ความจริงมีอยู่ว่า......‟บุคคลที่ร่ำรวยส่วนใหญ่ ถึง 76 % เป็นเจ้าของธุรกิจ”

เขาได้เรียนรู้เคล็ดลับของความสำเร็จบางอย่างที่เราไม่เคยรู้ และเขากล้าที่จะเริ่มต้นสร้างกิจการของตนเองไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งและได้รับผลตอบแทนจากธุรกิจอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เขาแตกต่างจากคนทำงานประจำที่ทุ่มเทสร้างความร่ำรวยให้ผู้อื่น มุ่งมั่นตื่นเช้าไปทำงาน เป็นลูกจ้างให้ดีที่สุด แล้วในที่สุดตัวเองไม่เหลืออะไร เช่นที่ J. Paul Getty กล่าวไว้ในหนังสือ “How To Get Rich” ว่า “กฎข้อแรกของความสำเร็จคือ คุณต้องทำธุรกิจเพื่อตัวเอง เพราะคุณไม่มีทางร่ำรวยได้ จากการทำงานให้คนอื่น”

ผลวิจัยพบว่า “96 % ของคนทำงานรุ่นใหม่มีความใฝ่ฝันอยากทำธุรกิจของตนเอง” แต่จริงๆ แล้วมีคนเพียงไม่ถึง 5 % เท่านั้นที่มีธุรกิจของตนเอง เพราะคิดว่าไม่มี “โอกาส” หรือรู้สึกว่ามีอุปสรรคมากมายเช่น
ไม่มีเวลา ไม่มีเงินทุน
ไม่มีพื้นฐานความรู้ทางธุรกิจ กลัวการเปลี่ยนแปลงชีวิต
กลัวล้มเหลว ครอบครัวไม่สนับสนุน

ปัญหาหลักที่พบเห็นคือการที่เราไม่เคยถูกสอนให้เรียนหนังสือเพื่อจบออกมาเป็นเจ้าของธุรกิจ ขาดมุมมองเชิงธุรกิจ แต่กลับมองเห็นวิชา ชีพที่ร่ำเรียนมาเป็นข้อจำกัด เป็นอุปสรรคในการปรับเปลี่ยนไปทำธุรกิจของตนเอง ในขณะที่มุมมองของผู้ที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจโดยทั่วไปจำเป็น ต้องมองหาโอกาสทางการตลาดและแนวโน้มธุรกิจมากกว่าความชำนาญเฉพาะ ตัวในสาขาวิชาชีพที่ร่ำเรียนมา
เพราะฉะนั้น คนส่วนใหญ่ “ได้แต่คิดอยาก” ไม่ได้เปิดโอกาสให้ตนเองเรียนรู้วิธีทำอะไรใหม่ที่แตกต่าง ไม่กล้าทำอะไรที่แตกต่าง และไม่ได้เริ่มต้นเปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นนักโทษของงานประจำอยู่ต่อไป และค่อยๆถูกปัญหาอุปสรรคจากการใช้ชีวิตประจำวันอันเหนื่อยยาก บนถนนสายเดิมๆ บั่นทอนความฝันและแรงบันดาลใจลงไปเรื่อยๆ


Robert T. Kiyosaki เขียนไว้ในหนังสือ Rich Dad, Poor Dad ว่า

ชีวิตวนเวียนอยู่อย่างนี้.... “ กลัว – ไปทำงาน – รับเงินเดือน - กลัว ”
เรื่องจริงที่น่าตื่นเต้นของโอกาสการทำงานเพื่อตัวเอง 3 กระแสเศรษฐกิจ แนวโน้มธุรกิจในอนาคต ที่เริ่มต้นแล้วในปัจจุบัน
พอล เซน พิลเซอร์ (Paul Zane Pilzer) นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังชาวอเมริกัน
ที่ปรึกษาอดีตประธานาธิบดีอเมริกันถึง 2 สมัย และเป็นผู้ที่ได้ทำนายไว้ล่วงหน้าอย่างถูกต้องมาแล้วถึงปรากฎการณ์อันน่าระทึกใจของระบบอินเตอร์เน็ตที่เข้ามามีบทบาทอย่างมหาศาลในชีวิตประจำวันในทศวรรษที่ผ่านมา ได้กล่าวทำนายล่วงหน้าอีกครั้งหนึ่งถึง กระแสทางเศรษฐกิจ 3 กระแส แนวโน้มทางธุรกิจที่กำลังเริ่มต้นขึ้นในทศวรรษนี้อย่างเห็นได้ชัดเจน คือ

1. กระแสธุรกิจ ทำงานที่บ้าน (Home-base Business)
Robert T. Kiyosaki กล่าวไว้ในหนังสือพ่อรวยสอนลูก #2 “เงินสี่ด้าน” ถึงโอกาสการทำธุรกิจส่วนตัว 3 รูปแบบ คือ
Corporation
ธุรกิจที่คุณทำ โดยลงทุนเปิดบริษัท จัดตั้งสำนักงาน และสร้างระบบขึ้นมาเอง เป็นระบบที่เราคุ้นเคยมากที่สุด ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
Franchise
ธุรกิจที่คุณทำ โดยการลงทุนซื้อระบบสำเร็จรูปจากคนอื่น เปิดเป็นร้านค้ากลางชุมชน ใช้เงินลงทุนปานกลางขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ
Network Marketing
ธุรกิจที่คุณทำ โดยการจดทะเบียนเข้าร่วมธุรกิจสำเร็จรูป เป็นระบบที่รวมธุรกิจในระบบบริษัท Corporation และ Franchise เอาไว้ด้วยกันแล้วทำให้ขนาดเล็กลง เพราะนอกจากสามารถทำเป็นธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็กแล้ว ยังมีข้อเด่นคือได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าของ“แฟรนไชส์ส่วนตัว” ที่สามารถขยายสาขาต่อไปได้อีก การทำธุรกิจใช้เงินลงทุนเพียงเล็กน้อย
Network Marketing
คือ ระบบการทำอาชีพอิสระ / ธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็กด้านการ ตลาดสำเร็จรูปแบบใหม่ ที่ได้พัฒนาเอาระบบการสื่อสารต่างๆ เช่น โทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์มือถือ สื่อโฆษณา ใบปลิว สื่อไปรษณีย์ ไดเร็คเมล์ และระบบ E-commerce ผ่านอินเตอร์เน็ต มาใช้เป็นเครื่องมือทำการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ผู้ทำธุรกิจสามารถทำงานจากที่บ้านของตนเอง หรือทุกแห่งอย่างมีอิสระ โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ทำงานเสียเวลารถติดวันละหลายชั่วโมง ไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องเปิดเป็นบริษัท และไม่ต้องลงทุนตกแต่งหน้าร้าน สถานที่แต่อย่างใด เป็นระบบธุรกิจขนาดเล็กที่บ้านแบบ SOHO (Small Office Home Office) ที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่างหนึ่ง
ระบบธุรกิจ Network Marketing ได้รับการกล่าวขานจากนักการตลาดชั้นนำในยุคปัจจุบัน เช่น Dr. Charlds W. King ศาสตราจารย์ด้านการตลาด มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ชิคาโก ในหนังสือชื่อ “The New Professional” , Robert T. Kiyosaki ในหนังสือชุดพ่อรวยสอนลูก “The Business School” และ Rene Reid
Yarnell ในหนังสือ “The New Entrepreneurs For the 21st Century” ว่าเป็นระบบธุรกิจ “คลื่นลูกใหม่” สำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและทรงพลัง และจะครองตลาดในศตวรรษที่ 21 ตามแนวโน้มของเศรษฐกิจใหม่ ที่ผู้คนทำงานจำนวนมากจะถูกผลักออกจากสถานภาพลูกจ้างด้วยการลดขนาดลงขององค์กรต่างๆเพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยการทดแทนด้วยพลังอำนาจของระบบเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ที่สามารถทำงานได้มากกว่า แม่นยำกว่า ต้นทุนต่ำกว่า และปัญหาน้อยกว่า

ในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งเป็นแรงดึงดูดจากการมุ่งหาอิสรภาพของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เริ่มเบื่อข้อจำกัดของระบบบริษัท และเริ่มไม่มั่นใจกับความมั่นคงของงานประจำ มองหาธุรกิจของตนเองที่เริ่มต้นและทำงานง่าย ทางเลือกใหม่ที่สามารถให้ความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวมากกว่าและก้าวหน้าอย่างยั่งยืนกว่า แรงกดดันน้อยกว่า สำหรับอิสรภาพทางเวลาและอนาคตของตนเองและครอบครัว แม้ว่าจะต้องแลกกับความมีหน้ามีตาของตำแหน่ง หน้าที่การงานในบริษัทขนาดใหญ่ก็ตาม

ระบบ Network Marketing กลุ่มผู้คนทำงานในฐานะเจ้าของ ธุรกิจทุกคนโดยไม่ใช่นายจ้างลูกจ้าง โดยมีบริษัทแม่เป็นแกนหลักในการจัดการภาระพื้นฐานทางธุรกิจเช่นเดียวกับระบบแฟรนไชส์ และจัดสรรผล ตอบแทนตามผลงานของแต่ละคนอย่างยุติธรรม ในรูป Performance based compensation คนทำธุรกิจจึงสามารถทุ่มเทพลังและใช้ศักยภาพของตนเองสูงสุด เพื่อสร้างธุรกิจที่มั่นคงและสร้างผลตอบแทนแก่ตนเองสูง สุดอย่างไม่มีขีดจำกัดเช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายโอนเป็นมรดกให้ลูกหลานต่อไปได้ เสมือนหนึ่งการถือหุ้นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่า เพิ่มและอัตราการเติบโต ต่อเนื่องตลอดเวลาอย่างไม่สิ้นสุด แตกต่างจากระบบบริษัท ที่มีการจ้างงานแบบนายจ้างลูกจ้าง การจ่ายผลตอบแทนจะเป็นแบบตายตัว ตกลงล่วงหน้า นายจ้างส่วนใหญ่คาดหวังผลงานสูงสุด แต่ต้องการจ่ายเงินเดือนให้ต่ำสุด เพื่อลดค่าใช้จ่าย ในขณะที่ ลูกจ้างส่วนใหญ่คาดหวังงานสบาย เงินเดือนสูง บางคนทำงานน้อยเงินเดือนสูง บางคนทำงานมาก เงินเดือนต่ำและเป็นพื้นฐานความขัดแย้งที่เป็นธรรมชาติ และบั่นทอนศักยภาพของผู้คนส่วนหนึ่ง

จากเดิมที่ Network Marketing เคยถูกเข้าใจว่าเป็นธุรกิจขาย ตรงแบบ Door to Door หรือเคาะประตูขายสินค้าตามบ้าน เป็นที่หวั่นเกรงของคนจำนวนมากที่ไม่ชอบงานขาย ในลักษณะที่ต้องง้อคนซื้อ หรือบังคับซื้อ รวมทั้งบางคนที่ยังไม่เข้าใจเอาไปปะปนกับ ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ซึ่งแท้จริงแล้วต่างกันแบบคนละขั้วเลยทีเดียว ปัจจุบันรูปแบบธุรกิจ Network Marketing ได้ถูกปฏิวัติและเปลี่ยนแปลงไปเป็นระบบธุรกิจยุคใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพด้วยระบบการสื่อสารทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่เป็นกระบวนการนำพาผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค ดำเนินการผ่านระบบสื่อสารเทคโนโลยี คนรุ่นใหม่จำนวนหนึ่งได้เริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจของตนเองโดยการเรียนรู้ และทำความเข้าใจระบบการตลาดนี้ และนำเอานวัตกรรมสมัยใหม่ทางเทคโนโลยีการสื่อสารอินเตอร์เน็ตและอีคอมเมอร์ส (E-Commerce) เข้ามาใช้เป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจที่ทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และกว้างขวาง อย่างไม่มีอาณาเขต พร้อมกับการสร้างรายได้มหาศาลจากธุรกิจ
มีคนเข้าสู่ธุรกิจ 8,000 คน/วัน หรือประมาณ 1 คน ทุก 11 วินาที
-U.S. Figures Success Magazine

2. กระแสธุรกิจผ่านสื่อสารเทคโนโลยี / อินเตอร์เน็ต (E-commerce)

ปรากฎการณ์ของคลื่นทางสื่อสารเทคโนโลยีและสารสนเทศที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง รวดเร็ว และต่อเนื่องทั่วโลก เปลี่ยนแปลงระบบทางเศรษฐกิจไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งในระบบการทำงานของสำนักงาน การมีอุปกรณ์เทคโนโลยีทดแทนคน การจัดระบบฐานข้อมูลธุรกิจยุคใหม่ การสื่อสารที่ใช้เวลาชั่วพริบตา ระบบการจัดส่งสินค้า และการติดตามดูแลลูกค้าที่เปลี่ยน แปลงไป ไม่เพียงเท่านี้ ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย นับจาก เครื่องมือเครื่องใช้ทางเทคโนโลยีในบ้าน ระบบการสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ SMS คอมพิวเตอร์ขนาดพกพา ฯลฯ มีคำกล่าวว่า เทคโนโลยีวันนี้ เพียงแค่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง

บิลล์ เกตส์ แห่งไมโครซอฟท์ ได้กล่าวเฉพาะถึงระบบอินเตอร์เนตไว้ว่า
“อินเตอร์เน็ตเปรียบเสมือนคลื่นน้ำที่ถาโถมเข้ามา ใครไม่เรียนรู้การว่ายน้ำจะจมน้ำตาย ใครที่ต่อต้านจะพ่ายแพ้ และโอกาสทางผลประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตในวันข้างหน้าจะยิ่งใหญ่กว่าที่ผมได้รับเสียอีก”


และแน่นอนที่สุด ปรากฎการณ์นี้ได้สร้างผลกระทบในเชิงบวก และลบต่อชีวิตการทำงานของผู้คน ในด้านลบ กลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งจะถูกผลักออกจากระบบเศรษฐกิจใหม่จากการถูกแทนที่ด้วยระบบเทคโนโลยี ทำให้ตกงานและเกิดปัญหารายได้ค่าครองชีพ แต่ในขณะเดียวกันทำให้เกิดโอกาสในด้านบวก ถ้าหากทุกคนเรียนรู้และคว้าโอกาส นี่กลับจะเป็นโอกาสที่ระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถให้ได้มากมายเหลือคณานับ โดยการจัดตั้งธุรกิจส่วนตัวที่มีพื้นฐาน การทำงานด้วยสื่อสารและเทคโนโลยี อาจกล่าวได้ว่า บทบาทหลักของอินเตอร์เน็ตในธุรกิจมี 4 ประการ คือ
2.1 ใช้ในด้านการสื่อสาร (Communication source) อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ทรงพลังมาก รวดเร็วชั่วพริบตา มีต้นทุนราคาที่ถูกกว่าการสื่อสารชนิดอื่นๆ รวมทั้งมีความหลาก หลายในการใช้งานทั้งภาพและเสียง
2.2 ใช้เป็นแหล่งข้อมูลธุรกิจ (Business enrichment resource)
ธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐอเมริกา
80% ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นแหล่งสืบค้นข้อมูลธุรกิจ, กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และคู่ค้า
65% ใช้สืบค้นธุรกิจอื่นๆ
10% ใช้เป็นศูนย์ฝึกอบรมพนักงาน (Online training)
2.3 ใช้เป็นแหล่งปฏิบัติการธุรกิจ (Business operation resource)
ใช้ในการทำการตลาดเช่น E-marketing, สื่อสารและประชาสัมพันธ์ธุรกิจเป็นแหล่งการซื้อและขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ ซึ่งเป็นสำนัก งานเสมือนที่มีต้นทุนต่ำและไม่มีข้อจำกัดของอาณาเขต นอกจากนี้ยังช่วยจัดการระบบการจ่ายเงินและบัญชีผ่านธนาคาร ทำให้กระบวนการทำงานสะดวกสบายขึ้น
2.4 ใช้เป็นเครื่องมือลูกค้าสัมพันธ์ (Customer relation tool)
กระบวนการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องกระทำอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องเพื่อรักษาลูกค้าระยะยาว การสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นวิธีที่ง่าย รวดเร็ว และต้นทุนต่ำ

กล่าวโดยทั่วไป แม้ว่าในประเทศไทย ระบบการสื่อสารอินเตอร์ เน็ตจะยังไม่ก้าวหน้าเท่าประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่แนวโน้มการเจริญเติบเป็นคลื่นใหญ่ที่เห็นได้อย่างชัดเจน และแน่นอน เวลานี้ เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการเริ่มต้น

3. กระแสธุรกิจ ด้านความเป็นอยู่ที่ดี (Wellness Industry)

พอล เซน พิลเซอร์ กล่าวไว้ในหนังสือ “The Wellness Revolution : How to Make a Fortune in the Next Trillion Dollar Industry” ว่า กระแสของผู้คนทั่วโลกที่หันมาใส่ใจสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปัจจุบัน สามารถคาดการณ์ได้ว่า ธุรกิจด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี จะเป็นธุรกิจที่มาแรงที่สุด ในช่วงทศวรรษนี้ จะมีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และจะสร้างความร่ำรวยมหาศาลแก่คนที่เข้าสู่ธุรกิจนี้ องค์การอนามัยโลก ได้ประมาณการณ์ไว้ล่าสุดว่า ปัจจุบันมีพลโลกที่อ้วนมากถึง 300 ล้านคน และอาจเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ใน 20 ปีข้างหน้า สาเหตุเนื่องจากการปรับเปลี่ยนของ นิสัยการกินอยู่ วิถีชีวิต และการงาน ถือเป็นโรคภัยใหญ่ที่สุดของศตวรรษ !!!
น.ส.พ.ไทยรัฐ 7 มิถุนายน 2544
หันมามองดูปัญหาสุขภาพความเป็นอยู่ที่น่าตกใจของคนไทย70% ของปัญหาสุขภาพ และโรคภัยไข้เจ็บไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากภาวะโภชนาการบกพร่องทั้งในวัยเด็กและผู้ใหญ่สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ และภาวการณ์บีบรัดทางเศรษฐกิจ ทำให้คนไทยมีสุขภาพเสื่อมลง กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า
ในปี 2543 คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคเรื้อรังที่ไม่ใช่เชื้อโรค
อันดับที่ 1 ได้แก่ โรคมะเร็ง
อันดับที่ 2 ได้แก่ โรคหัวใจ
อันดับที่ 3 ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง
อันดับที่ 4 ได้แก่ โรคเบาหวาน
คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ และหลอดเลือดเฉลี่ยชั่วโมงละ 7 คน
น.ส.พ. คมชัดลึก 3 มิถุนายน 2545


ผลการสำรวจภาวะโภชนาการแห่งชาติในประเทศไทย
ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา
ปี 2529 คนไทยมีภาวะโรคอ้วน 14.3%
ปี 2538 คนไทยมีภาวะโรคอ้วน 29.9%(มีอัตราเพิ่ม 109.1%)
คาดว่าจะมีผลสำรวจในปี 2548 อีกครั้งหนึ่ง และหากประเมินจากอัตราเพิ่มที่เท่าเดิมคือ 109.1% คนไทยจะมีภาวะโรคอ้วนถึง 62%
น.ส.พ.เดลินิวส์ 16 สิงหาคม 2544


และปัญหาจากโรคอ้วนนี้เอง นอกจากจะมีผลด้านจิตใจและความ รู้สึกแล้ว ยังเป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมายตามมาด้วยโรคเรื้อรังที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคเบาหวาน โรคข้อเสื่อมก่อนวัย ระบบหายใจผิดปกติ ฯลฯ
ปรากฎการณ์เหล่านี้ เป็นที่ตระหนัก และชักนำให้คนไทยเริ่มใส่ใจ ดูแลรักษาสุขภาพเพื่อมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี อายุยืนยาวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นแนวทางป้องกัน ทั้งด้านการเลือกรับประทาน อาหารปลอดสารพิษปนเปื้อน ชีวจิต อาหารสมุนไพรสำเร็จรูป และการออกกำลังกาย ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี จึงเป็นที่ต้องการของตลาด และมีการขยายตัวของตลาดอย่างมากในปัจจุบันนี้ เป็นการตอกย้ำคำทำนายของ Paul Zane Pilzer ของโอกาสทางธุรกิจแนวสุขภาพความเป็นอยู่ที่ดีที่แท้จริง และกำลังชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ นับเป็นโอกาสแห่งความสำเร็จอย่างสูงสุดอีกประการหนึ่งที่จะทำธุรกิจตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นอุตสาหกรรมมูลค่า 1,000,000 ล้านดอลล่าห์สหรัฐในปี 2010

บทสรุป รูปแบบการทำงานในอนาคต


ผลกระทบของกระแสเศรษฐกิจใหม่ มีพลังที่อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในสังคม และมีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนได้มากมาย นับตั้งแต่ค่าครองชีพที่ไต่ระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สภาพแวดล้อมการทำงานที่กดดันด้วยความจำเป็นที่ต้องสร้างผลงานมากขึ้น ใช้เวลาทำงานแทบไม่มีวันหยุด แข่งขันกันเพื่อความอยู่รอดมากขึ้น ค่าใช้จ่ายต่อรายได้ที่ไม่สมดุลด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตของสังคมบริโภคมากขึ้น การแพร่กระจายการใช้บัตรเครดิตและหนี้บัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้น สภาพการเดินทางจราจรที่ผลาญเวลาประจำวัน จนไม่มีเวลาให้ครอบครัว ลูก และตัวเอง คุณภาพชีวิตที่ตกต่ำลง
บ่อยครั้งที่ผู้คนในสังคมเหมือนตกอยู่ในสภาพสนามแข่งหนู ที่แทบจะไม่มีเวลาหยุดคิดถึงชีวิตของตนเองในอนาคตอย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจใหม่ คงไม่นำมาเฉพาะสภาพที่ตกต่ำลงเสมอไป เราได้พบเห็นบุคคลมากมายที่มองหาหนทางและพร้อมที่จะออกจากสนามแข่งหนู บุคคลที่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตนเองโดยอาศัยโอกาสของการปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
รูปแบบการทำงานของสภาพสังคมใหม่ดังกล่าว สอดคล้องกับแนวกระแสเศรษฐกิจใหม่ 3 กระแสที่กำลังเกิดขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งในบทบาทของอีคอมเมอร์สที่กำลังยึดครองตลาดในสหรัฐอเมริกา และเริ่มหลั่งไหลเป็นลักษณะโลกาภิวัฒน์ไปทั่วโลก เป็นธุรกิจที่ไร้พรมแดน ในประเทศไทยเอง เราเห็นรูปแบบการทำงานแบบสำนักงานขนาดเล็ก SOHO (Small Office Home Office) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมากมายที่มีคนทำงานเป็นเจ้าของธุรกิจเพียง 1-2 คน แต่สามารถทำธุรกรรมทั่วโลก สร้างรายได้มหาศาล โดยอาศัยระบบการค้าขายบนเครือข่าย หรือธุรกรรมอินเตอร์เน็ต ในสภาพการทำงานอิสระ และด้วยนวัตกรรมความเจริญเติบโตก้าวหน้าดังกล่าว เป็นผลต่อเนื่องที่ก่อให้เกิดกระแสธุรกิจทำงานจากที่บ้านหรือสำนักงานขนาดเล็กติดตามมาอย่างมากมายหลากหลายรูปแบบที่ช่วยให้การเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวเป็นเรื่องง่ายขึ้น และผลักดันให้กระแสธุรกิจทำงานที่บ้านเติบโตอย่างรวด เร็วทั่วโลก
กระแสเศรษฐกิจอีกกระแสหนึ่งที่กล่าวถึงข้างต้น คือกระแส ธุรกิจสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี อาจกล่าวได้ว่า สภาพสังคมแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ที่ผ่านมาคุณภาพชีวิตของผู้คน ตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งด้านมลภาวะทางอากาศ คุณภาพอาหารการกิน เวลาการผ่อนคลายทางอารมณ์ และการออกกำลังกาย เป็นผลให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมามากมาย กลุ่มโรคเหล่านี้ล้วนเกิดจากสาเหตุที่คล้ายคลึงกันและสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง นี่อาจกำลังเป็นจุดเปลี่ยนและจังหวะเวลาของสังคมที่กำลังมองหาทางออก เราสามารถเห็นได้จากหลายธุรกิจที่มุ่งแนวทางด้านสุขภาพมากขึ้นทุกวัน ไม่เฉพาะแต่ด้านการรักษาพยาบาลเมื่อเกิดการเจ็บป่วย (Cure) ซึ่งปัจจุบันเรียกว่าอุตสาหกรรมความเจ็บป่วย Sickness Industry แต่ตลาดที่เติบโตมากยิ่งกว่า คืออุตสาหกรรมความเป็นอยู่ที่ดี ที่เรียกว่า Wellness Industry ศัพท์ที่ได้รับการบัญญัติใหม่ เพื่อมุ่งเจาะจงถึงอุตสาหกรรมของการเฝ้าระวังดูแลสุขภาพก่อนการเจ็บป่วย อันเป็นแนวทางเพื่อป้องกัน (Prevention) ไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยขึ้นโดยเฉพาะ

และทั้ง 3 กระแสเศรษฐกิจดังกล่าว คือพลัง 3 ประสานที่กำลังเชื่อมโยงกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างมีนัยสำคัญที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ เป็นปรากฏการณ์ขับเคลื่อนที่รุนแรง หากมองดูในภาพรวมแล้ว โอกาสทางธุรกิจอันยิ่งใหญ่ในระยะเวลาอันใกล้นี้ หนีไม่พ้นไปจากกรอบกระแสเศรษฐกิจดังกล่าว ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
พอล เซน พิลเซอร์ (Paul Zane Pilzer) ได้ทำนายไว้ว่า กระแสทางเศรษฐกิจทั้ง 3 กระแสนี้จะรวมเป็นหนึ่งเดียว และ เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่รู้จักมองหาโอกาสทำธุรกิจมากกว่ายึดติดการทำงานตามสายวิชาชีพที่ร่ำเรียนมา ผู้คนจะเริ่มก้าวสู่ธุรกิจขนาดเล็กของตนเองตามกระแสเศรษฐกิจทั้ง 3 กระแสนี้

แล้วคุณล่ะคุณอยู่ในกลุ่มใด







MyAragon ธุรกิจที่รวม3เทรนด์แห่งโลกอนาคตเป็นหนึ่งเดียว
โทร.089-071-8889 คุณ อานนท์
LINE ID : jumbolife







FoodMatrix นวัตกรรมสารอาหารเพื่อสุขภาพ 

จากงานวิจัยรางวัลโนเบลปี1999

รายละเอียดเพิ่มเติม

www.VivaAragon.com






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น